Hi-Seoul สวัสดีกรุงโซล : เนื้อย่างเกาหลี มากแต่น้อย น้อยแต่มาก

          มื้อค่ำวันขึ้นปีใหม่ ผมและคุณภรรยาได้มีโอกาสไปประเดิมร้าน "Hi-Seoul สวัสดีกรุงโซล" ร้านเนื้อย่างเกาหลีซึ่งเพิ่งจะเปิดเมื่อวันสิ้นปี 31 ธันวาคม 2554 ร้านนี้ตั้งอยู่ในโครงการมาลินพลาซ่า ถนนห้วยแก้ว ตรงข้ามกับมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ (ถ้ามาตามถนนห้วยแก้ว ก่อนจะขึ้นวัดพระธาตุดอยสุเทพ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่จะอยู่ซ้ายมือ โครงการมาลินพลาซ่าจะอยู่ขวามือ เยื้องๆกับร้านโบ๊ต เป็นตลาดขายของกินตอนค่ำ มีห้องพักรายวัน และมีสินค้าแฟชั่นด้วย เริ่มขายประมาณ 6 โมงเย็น - 4 ทุ่ม)

          ถ้าขับรถมาเอง แนะนำให้ไปจอดในที่จอดรถของโครงการ ค่าจอด 15 บาท แล้วเดินมาร้านซึ่งหันหน้าให้ถนนห้วยแก้ว ลานหน้าร้านมีตลาดนัดขายสินค้าแฟชั่นให้เดินย่อยอาหาร โครงการมาลินพลาซ่ายังมีร้านอาหารน่าสนใจอีกหลายร้าน ไว้มีโอกาสจะมาคุยให้ฟัง

          แอบทราบมาว่าร้านนี้เป็นแบรนด์ของคนเชียงใหม่นี่เอง เลยอยากมาอุดหนุน แถมลงทุนเช่าพื้นที่ ตกแต่งร้านอยู่หลายเดือน เสียไปหลายตังค์อยู่ (ไม่รู้ข้อมูลถูกหรือเปล่านะ แต่ก็จะไปอุดหนุนล่ะ)

     
          สวัสดีกรุงโซล เป็นร้านติดแอร์ แต่งร้านได้สวยงาม เมนูมีหน้าเดียวโลดเนื่องจากเป็นบุฟเฟ่ต์ หัวละ 350 บาท รวมน้ำ ไม่มีบวกเพิ่ม ไม่ต้องเผื่อค่าน้ำ-ค่าบริการ ลิมิตนั่งได้ 2 ชั่วโมง มีราคาสำหรับเด็กด้วย

          น้ำดื่มมีให้เลือก 4 อย่าง โค้ก แฟนต้าน้ำส้ม สไปร์ท และน้ำเปล่า เติมได้ตลอด ส่วนสัตว์ก็มีอยู่ 7-8 อย่าง เนื้อวัวก็จะมี เนื้อลาย เนื้อติดมัน เนื้อไม่ติดมัน

          หมูมี สามชั้นหมัก สามชั้นไม่หมัก คอหมู(มั้ง) เนื้อหมักซอส สัตว์น้ำมี 3 อย่าง กุ้งสด ปลาหมึก และหอยแมลงภู่นิวซีแลนด์

          ผักแกล้มก็ได้แก่ ผักสด เห็ดออรินจิ กระหล่ำปลีผัดน้ำปลา กิมจิื สลัด ไข่ตุ๋น และข้าวผัด เลือกสั่งนะครับ ไม่สั่งเค้าก็ไม่ยกมาให้นะ ของหวานเป็นไอติมกะทิ มีถั่วแดงบด ข้าวโพด และข้าวเหนียวมูล โปะมาให้นิดหน่อย

 

          น้ำจิ้มมี 3 ประเภท ซีฟู๊ด สูตรงา(ดูไกลๆเหมือนน้ำจิ้มสุกี้) และสูตรพริกเกาหลี (คงจะเป็นแนวพริกเผาเกาหลี) อย่างหลังนี่โดนที่สุด

           ร้านนี้เด่นที่น้ำจิ้มครับ จะกินให้มีรสที่สุดในแบบของผม ต้องย่างเนื้อแล้วจิ้มสูตรพริกเกาหลี วางกิมจิลงไปด้วย ห่อด้วยผักกาดหอม แล้วค่อยเอาเข้าปาก

          ผมลองชิมเนื้อแล้วทุกชนิดแทบไม่ต่างกันเลยถ้าไม่จิ้ม คือถ้าลองย่างแล้วเอาเข้าปากเปล่าๆ เพื่อสัมผัสรสเนื้อล้วนๆ จะเสียของมากเพราะจืดสนิท ไม่มีสัญญาณว่าได้ผ่านการหมักใดๆ

          อาหารประกอบพวก ข้าวผัดผมไม่ได้ลอง กิมจิลองกินเปล่าๆ ไม่อร่อย มีแต่รสเปรี้ยวแบบน้ำส้มสายชู ไข่ตุ๋นก็ทั่วๆไป สลัดนี่พอไหว

          ส่วนสัตว์น้ำนี่โอเคเลย กุ้งกรอบแกะมาให้อย่างดี หอยแมลงภู่เนื้อแน่น รู้ได้เลยว่าของดี แต่ปลาหมึกยังงั้นๆ

          ไอติมกะทิอร่อยครับ ใส่ถั่วแดงบดมาให้ดูอินเตอร์ดีจัง มาเสียเอาตรงข้าวเหนียวมูลนี่ล่ะ จะฝันถึงกรุงโซลสักหน่อย พาวนกลับมาป่าตันซะงั้น นี่ดีนะไม่โรยถั่วละสงคั่วมาด้วย

           ไข่ตุ๋นกับไอติม ร้านเค้าให้แค่คนละถ้วยนะครับ ไอ้เราก็ไม่รู้ไม่เห็นเขียนไว้ในเมนู ถามพนักงานเสิร์ฟว่าเบิ้ลได้ไหม น้องบอก"ได้ค่ะ" เลยสั่งมาเบิ้ลอีก 1 พอเช็คบิลร้านเรียกเก็บเพิ่ม 35 บาท ทำเอางงเลย ยังดีที่แจ้งทางร้านว่าเราเข้าใจผิดนึกว่าเบิ้ลได้ สวัสดีกรุงโซลเลยใจดีไม่คิดตังค์เพิ่ม คิดแค่ 2 หัว 700 บาทถ้วนๆ

          ผมให้ สวัสดีกรุงโซล 8/10 คะแนนครับ ขอตัด 1 คะแนนความไม่พร้อมในหลายๆอย่างของร้าน (ร้านเปิดใหม่ อะไรๆคงยังไม่ลงตัวนัก) อีก 1 คะแนนเรื่องราคาที่ยังไม่เหมาะสม ราคาขนาด 350 บาท กับความหลากหลายของอาหารยังน้อยไป ตัวเลือกน้อย ไม่ต้องไปเปรียบเทียบกับร้านแบรนด์อินเตอร์ หรือบุฟเฟ่ต์ตามโรงแรมเลย เนื้อถ้าหมักให้เกิดรสชาติอีกนิดก็แจ๋ว เตาถ่านแบบดูดควันก็ร้อนบ้าง-ไม่ร้อนบ้าง ต้องเปลี่ยนถ่านบ่อยๆ

          ข้อดีของร้านนี้ที่ปฏิเสธไม่ได้เลยคือสภาพร้าน และบริการ ร้านน่านั่งมาก ตกแต่งดี ไม่วางโต๊ะจนแออัดเกินไป พนักงานก็น่าจะมีความรู้ ผ่านการอบรมมาเป็นอย่างดี แถมหน้าตาดีอีกด้วย ผู้อ่านลองไปดูเถอะ พนักงานน่ารักหลายคน (ฮ่า) พนักงานชายก็ขยันเติมถ่านดีมาก แต่ต้องเติมกันบ่อยๆมันก็กินขาดช่วงนะครับ

          แต่ยังไงก็เชียร์ให้ไปลองชิมกันดูนะครับ ถือได้ว่าเป็นร้านที่อยู่ในระดับคุณภาพดี ร้านหนึ่งของเชียงใหม่ 350 บาท อาจพูดไม่ได้ว่าถูก แต่ก็ถือว่าคุ้มค่าล่ะ

          

          ขอบคุณที่อ่านครับ 

          ป.ล. นี่คือตัวละครที่ผมเอ่ยถึงบ่อยๆครับ เผื่อใครอยากเห็น